วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

รถราง รถไฟ รถเมล์

ห่างหายจากบล็อคไปนาน แม่หมีมัวแต่ลั้นลากับการหยุดยาวตั้งแต่คริสต์มาสยันปีใหม่ วันนี้ได้ฤกษ์สลัดความขี้เกียจออกจากสันหลัง แต่ขอบอกระหว่างที่แม่หมีลั้นลา ก็เก็บเรื่องดีดีมาฝากคุณๆทั้งหลายนะจ๊ะ หลายคนเห็นหัวข้อแล้ว มีงง มันคืออะไร รถไฟ รถเมล์ อะไรกัน!!!! คือที่แม่หมีขึ้นหัวข้อ Topic นี้ก็เพื่อที่จะมาคุยมาเล่าถึงเรื่องระบบการคมนาคมที่เมล์เบิรน์
การคมนาคมขนส่งที่ออสเตรเลียในแต่ละรัฐก็คงไม่แตกต่างกันมาก แต่ที่แม่หมีจะมาเล่าวันนี้เป็นระบบคมนาคมขนส่งที่เมืองเมล์เบิรน์ร รัฐวิคตอเรีย ถ้าคุณๆได้ติดตามเรื่องเล่าของแม่หมีมาก่อนหน้านี้ก็พอจะรู้ว่า เมลเบิรน์เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย เพราะฉะนั้นระบบการคมนาคมขนส่งที่นี่ค่อนข้างตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างเราๆ ท่านๆได้เป็นอย่างดี
ที่เมลเบิรน์เราจะใช้บัตรโดยสารที่เรียกว่า Myki Card สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมล์เบิรน์เป็นครั้งแรก สามารถหาซื้อบัตร Myki Card นี้ได้ที่เคาน์เตอร์จุดขายตามสถานีต่างๆ,ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือแม้แต่ร้าน 7-11   บัตร Myki Card นี้สามารถใช้ได้กับทั้งรถราง รถไฟ และรถบัส โดยบัตร Myki Card นี้จะมีอยู่ 2 แบบ คือ Myki Money คือบัตรที่เราเติมเงินแล้วใช้ไปเรื่อยๆจนเงินในบัตรหมดแล้วค่อยเติมใหม่ ส่วนบัตร Myki Pass นั้นจะจำกัดตามโซนที่เราเดินทางและขึ้นกับจำนวนวันที่เราต้องการใช้ เช่น  7 วัน,325 วัน หรือ 365 วัน เป็นต้น โดยไม่จำกัดเที่ยว
วิธีการใช้ Myki Card นั้น ก็ง่ายมากจ้ะคุณขา แค่แตะเบาๆ บนเครื่อง แตะครั้งแรกขาขึ้นระบบก็จะทำการบันทึกและจะหักเงินเมื่อเราแตะบัตรอีกครั้ง ณ ปลายทางที่เราต้องการลง ไม่ว่าจะเป็นรถราง รถไฟ รถเมล์ใช้ระบบเดียวกันหมด 

หน้าตาบัตร Myki Card


บัตร Myki Card ของแม่หมีเป็นแบบ Myki Money


เครื่องสแกนบัตร Myki Card ตามสถานีรถไฟ 


เวลาสแกนแค่แตะบัตรบนเครื่องตามรูป ง่ายๆจ๊ะ
ส่วนของรถบัสและรถราง เราจะแตะบัตรเวลาขึ้นไปบนรถแล้วนะจ๊ะ เครื่องสแกนบัตรจะอยู่ตรงประตูทางขึ้น อ้อ ลืมบอกไป เวลาเราใช้บัตร Myki Card ควรจะหมั่นเช็คจำนวนวัน จำนวนเงินให้พร้อมนะจ๊ะ ตอนนี้อาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วเราจะรู้ได้ไงอ่ะ คำตอบคือเราสามารถตรวจสอบได้จากหน้าจอบนเครื่องสแกนบัตร หรือเช็คออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ของ Myki ได้ หากถ้าเกิดเงินเในบัตรเราไม่พอ เราอาจจะต้องเสียเวลาเติมเงินกับพนักงานขับรถ ซึ่งอาจจะเจอสายตาพิฆาตจากผู้โดยสารคนอื่นบนรถได้นะ อิอิ แม่หมีเคยโดนมาแล้ว ทางที่ดีควรเช็คหรือจำมูลค่าเงินครั้งล่าสุดไว้จะดีกว่า หากจำนวนเงินไม่พอเราสามารถเติมเงินล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลาการเดินทางของเราและเพื่อนร่วมทางนะจ๊ะ แม่หมีขอบอก

ประตูอัตโนมัติรถไฟ

ที่สถานีจะมีป้ายบอกขบวนรถไฟและเวลาที่รถไฟเข้าเทียบชานชลา

เวลายื่นรอรถไฟห้ามล้ำเส้นเหลืองแดงที่เห็นนะจ๊ะ

ที่นั่งภายในรถไฟ

ที่นั่งสำหรับคนพิการบนรถไฟ

เครื่องสแกนบัตร Myki ประตูทางออกรถประจำทาง

ที่นั่งภายในรถประจำทาง


YOU KNOW YOU LOVE ME ....XoXo
แวะมาพูดคุยหรือติดตามเรื่องราวรายวันสไตล์แม่หมีได้ที่ https://www.facebook.com/thekoalagang 

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

Sovereign Hill เสน่ห์เหมืองทอง


เมื่อช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา แม่หมีมีโอกาสไปเที่ยวที่ Sovereign Hill ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกทีหนึ่งในรัฐวิคตอเรีย  Sovereign Hill เป็นพิพิธภัณฑ์แบบ outdoor นะจ๊ะ ไม่ได้อยู่แต่ในห้องอาคารสี่เหลี่ยม แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเพื่อการเรียนรู้จากผู้คนและอาคารสถานที่จริงที่มีอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมือง Ballarat ครอบคลุมพื้นที่เหมืองทองประมาณ 25 เฮกเตอร์หรือประมาณ 0.25 ตารางกิโลเมตร พื้นที่นี้เคยเป็นแหล่งขุดทองในสมัยก่อน ปัจจุบัน Souvereign Hill จัดเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ภายในพิพิธภัณฑ์ยังคงความเป็นเมืองเก่า อาคาร ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงผู้คนแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสมัยโบราณ ยุคปี 1850

ช่วงที่แม่หมีไปอากาศหนาวประมาณ 3 องศาขับรถจากบ้านแม่หมีไปประมาณเกือบ 3 ชั่วโมงแต่ถือว่าคุ้มมากที่ได้มา ค่าเข้าชมประมาณคนละ 50 AUD เข้าไปแล้วรู้สึกเพลิดเพลินและทำให้จินตนาการการใช้ชีวิตของผู้คนชาวเหมืองสมัยก่อน มีทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านขายขนม ลูกกวาด ร้านขายยา บาร์ โรงแรม ไปรษณีย์ ซึ่งยังคงเป็นของเก่าตั้งแต่ดั้งเดิม รวมไปถึงไฮไลท์คือการทำเหมืองทอง ซึ่งในพิพิธภัณฑ์จะมีโซนในการร่อนทอง หลอมทอง ผู้เข้าชมสามารถไปร่อนทองในลำธารได้นะ เผื่อโชคดีจะได้เศษทองกลับติดไม้ติดมือไป นอกจากการเดินเยี่ยมชม เดินดูภายในตัวอาคารร้านรวงต่างๆเพื่อซึมซับบรรยากาศแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์เองยังมีตารางกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้เลือกเช่น ทัวร์ขุดทอง มีวันละ 2 รอบ 11.00 และ 14.00 น. ,โชว์เดินสวนสนามและยิงปืนของเหล่าทหารเสือ, โชว์การหลอมทองคำแท่ง, โชว์การทำขนมลูกกวาดแบบโบราณ ,โชว์การทำเทียนไข และอีกมากมาย ซึ่งสามารถดูได้จากแผ่นพับที่ได้รับแจก นอกจากตารางโชว์ต่างๆแล้วในนั้นจะมีแผนที่เส้นทางการเดินชมพิพิธภัณฑ์ให้ไว้กันหลงด้วยนะจ๊ะ ขอออกตัวไว้ก่อนว่าแม่หมีไม่ได้เป็นนักถ่ายภาพ ภาพที่ถ่ายก็ใช้จากกล้องมือถือนี่แหละ แสงสีอาจจะไม่ได้ดังใจทุกท่านนะจ๊ะ เอาเป็นว่าเรามาท่องเที่ยวจากภาพไปด้วยกันดีก่าเนอะ หุ หุ

จำได้ว่าหลังจากซื้อตั๋วเสร็จ จุดแรกที่พวกเราชาวคณะหมีเข้าไปเยี่ยมชมเป็นร้านขายยาหรือที่เรียกว่า Chemist ในสมัยนั้น ภายในร้านขายยายังคงความเก่าแก่ มีชั้นและขวดยาตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ภายในร้านขายยายังมีโซนที่เป็นห้องตรวจโรคสำหรับแพทย์ด้วย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ในร้านยังแต่งกายในยุคสมัยปี 1850 พร้อมทั้งให้คำอธิบายขั้นตอนการปรุงยาและจ่ายยาในสมัยนั้น ให้ความรู้สึกเหมือนแม่หมีเข้าไปอยู่ในยุคนั้นด้วยจริงๆ อิอิ

ร้านขายยาหรือ Chemistในสมัยนั้น

ชั้นจัดเก็บยาและตัวยาสำคัญที่ใช้ปรุงยาสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย 

ข้างในห้องตรวจโรค มีเครื่องมือที่ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคแบบโบราณ

ถัดจากร้านขายยา แม่หมีเดินเลาะมาตามถนนอิฐบล็อคแบบสมัยโบราณได้ซักพัก จนมาถึงจุดหนึ่งซึ่งมีกลิ่นโชยบางๆของเบเกอรี่หอมๆ แอบชำเลืองดูข้างๆ อ้าว นี่เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร คริคริ ที่แท้ก็เป็นร้านเบเกอรี่นี่เอง อ่านชื่อแล้วร้านนี้ช่างให้ควาหวังแก่แม่หมีเสียนี่กระไร ความหวังที่จะได้กินของอร่อย แล้วแม่หมีก็ไม่ได้ผิดหวังด้วยนะ หลังจากสองเท้าพอย่างเข้าไปในร้าน ทำให้ถึงกับตะลึงในบรรยากาศร้านเบเกอรี่แบบโบราณ ที่ร้านนี้ขายพายนานาชนิด ว่าแล้วอย่าให้พลาดแม่หมีจัดพายเนื้อไป 1 ชิ้น รสชาติกลมกล่อมเป็นที่สุด

ด้านหน้าร้านเบเกอรี่ที่ส่งกลิ่นหอมชวนให้แวะเข้าไปค้นหาความอร่อย

บรรยากาศภายในร้าน คงกลิ่นอายชองร้านเบเกอรี่ยุค 1850

หลังจากท้องอิ่มแล้ว แม่หมีกับชาวคณะก็เดินชมอาคารสถานที่ต่างๆ มีทั้งโรงแรม ร้านกาแฟ ร้านขายหนังสือ ร้านขายสินค้า Handmade ต่างๆอีกมากมาย ซึ่งอาคารร้านค้าเหล่านั้นล้วนคงเอกลักษณ์ความเก่าและเก๋า แม่หมีไม่ได้ลงรูปทั้งหมดนะจ๊ะเพราะเยอะมว๊ากกกกก เกรงว่าเพื่อนจะเบื่อ เดินไปได้ซักพัก หลานชายพ่อหมีอยากลองทำเทียนสี พวกเราก็เลยอพยพเดินเท้าไปยังร้านขายเทียน เข้าไปในร้านจะพบกับเทียน handmade เล่มสวยๆมากมาย เข้าไปด้านหลังร้าน จะพบกับ workshop ทำเทียนสีโดยเราสามารถทำเทียนสีที่เราต้องการเอง แต่ต้องซื้อเทียนเล่มขาวๆเหมือนในรูปจากร้าน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำการชุบเทียนสีตามที่เราต้องการ ส่วนใหญ่กิจกรรมนี้เด็กๆจะให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษ ครั้นจะลองทำบ้างก็เขิลลลอ่ะ

เจ้าหน้าที่แสดงขั้นตอนการหล่อเทียนและขึ้นรูปเทียนไขก่อนนำไปชุบสี
นอกจากการเดินเยี่ยมชมอาคารสถานที่ต่างๆแล้ว ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถม้าชมรอบเมืองและเหมือง ทางพิพิธภัณฑ์ก็มีไว้ให้บริการ แต่แม่หมีไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ หุ หุ

รถม้านั่งชมรอบๆพิพิธภัณฑ์ และเหมือง
พอประมาณซักบ่าย 2 จะมีขบวนพาเหรดของบรรดานักแสดงในเครื่องแบบทหารบนถนนสายหลัก ผู้เข้าชมจะมารวมตัวกันริมถนน นักแสดงจะโชว์ระเบียบการเดินแถวสวนสนามและยิงปืน แม่หมีชอบตรงที่พอจบการแสดงจะมีการโปรยคล้ายๆหิมะและฟองสบู่ลงมา ได้บรรยากาศฟินเฟ่อร์เว่อร์วัง

ขบวนพาเหรดเหล่าทหาร
อีกไฮไลท์หนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือการหลอมทอง แหม!!! ก็มาถึงเหมืองทองทั้งทีจะให้พลาดการหลอมทองได้ยังไง การแสดงหลอมทองจะเริ่มตั้งแต่กระบวนการการนำแร่ทองมาถลุงแร่ให้ได้ทองคำบริสุทธิ์ แล้วนำไปหลอมในอุณหภูมิสูง จากนั้นนำมาหล่อให้เป็นทองคำแท่งที่เราเคยเห็นกัน แม่หมีนั่งดูไปตาลุกวาวกันเลยทีเดียว หลังจากคุณลุงหลอมได้ทองคำแท่งแล้วก็ใส่ไว้ในกล่องด้านข้างที่ล็อคกุญแจอย่างดี อิอิ เพื่อป้องกันการสูญหายจากวินาทีชุลมุน เพราะนั่นคือทองคำแท้ จริงๆนะ

เจ้าหน้าที่สาธิตวิธีการหลอมทอง
พอดูสาธิตการหลอมทองเสร็จ แม่หมีก็เร่ิมสงสัยว่าแล้วเค้าเอาทองมาจากไหนอ่ะ เดือดร้อนให้พ่อหมีและชาวคณะต้องพาไปดู เราเดินมาจนถึงสถานที่คล้ายๆลำธารสายเล็กๆที่ไหลมาจากเหมืองที่อยู่บริเวณภูเขาด้านหลัง ณ ที่ตรงนี้เป็นจุดมหาสมบัติ เอ้ย....เป็นจุดที่สายน้ำพัดพาเอาแร่ทองคำมาติดมา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ชาวคณะเราก็เริ่มอาชีพเก่า หยิบเครื่องหมายเครื่องมือ พลั่ว เสียม กระจาด ขึ้นมาโกยหินดินทราย ร่อนหาทอง เผื่อได้ติดไม้ติดมือ อาาาาา อย่าทำเป็นเล่นไป นักท่องเที่ยวบางรายเจอแร่ทองจริงๆตรงนี้นะจ๊ะ หากใครหาได้สามารถนำไปใส่ขวดแก้วเล็กๆเป็นของที่ระลึกได้เลยนะ แต่สำหรับแม่หมีผู้ซึ่งไม่มีโชคทางนี้ ก็ได้แค่กางเกงเปียกปอนเป็นที่ระลึกแทน

ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกสนานกับการร่อนทอง
อากาศวันที่แม่หมีไปค่อนข้างหนาว แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินเที่ยว เพราะมีแต่สถานที่น่าสนใจที่ทำให้เราอยากเข้าไปเยี่ยมชม แถมมีกิจกรรมที่เราสามารถร่วมได้โดยไม่เบื่อ ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนและจะมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ เพราะจริงๆแล้วเมืองนี้มีชาวจีนอพยพเข้ามาอาศัยและทำอาชีพเหมืองทองกันเยอะ

ถนนสายหลักของพิพิธภัณฑ์



รางโบว์ลิ่งสมัยโบราณทำจากไม้
อีกกิจกรรมหนึ่งที่แม่หมีชอบก็คือการสาธิตวิธีทำลูกอมแบบโบราณ โดยใช้การเคี่ยวน้ำตาลจนเหนียวและใส นำมารีดและตัดด้วยเครื่องตัดลูกอม มีหลายรสชาติให้ชิมและซื้อกลับไปเป็นของฝาก ถูกใจคุณพ่อหมีผู้ชื่นชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจ แม่หมีไม่สามารถฝ่าฝูงชนที่รุมดูเข้าไปถ่ายรูปกรรมวิธีการทำลูกกวาดได้ ได้มาก็แต่รูปผลผลิตสุดท้ายของลูกกวาดแสนอร่อย

ลูกกวาดแบบโบราณ มากมายหลายรสชาติ
แม่หมีและชาวคณะใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนเย็นที่ Sovereign Hill รู้สึกว่าคุ้มค่ามากที่ได้มาเยือนที่นี่ หากเพื่อนๆคนไหนมีโอกาส แม่หมีแนะนำให้ลองมาแวะเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์  outdoor แห่งนี้ รับรองว่าไม่มีคำว่าเบื่อ ไว้คราวหน้าแม่หมีและชาวคณะจะไปเสาะหาที่เที่ยวที่น่าสนใจมานำเสนออีกนะจ๊ะ

YOU KNOW YOU LOVE ME ....XoXo
แวะมาพูดคุยหรือติดตามเรื่องราวรายวันสไตล์แม่หมีได้ที่ https://www.facebook.com/thekoalagang